ส่งฟรี ชาแดงเจิ้งซานเสี่ยวโจ่งA 正山小种红茶A Lapsang Souchong Black Tea A
ชาเจิ้งซานเสียวจ่งเป็นชาแดง (红茶/หงฉา) ชนิดหนึ่งซึ่งถือว่าเป็น 鼻祖 (ปี้จู่) ต้นกำเนิดแห่งชาแดงในโลกนี้เลยก็ว่าได้ ชาแดงเจิ้งซานนี้มีแหล่งเพาะปลูกที่มณฑลฝูเจี้ยน (福建) เขาอู่อี๋ซาน (武夷山) ตำบลซิงชุน (星村) ในพื้นที่ที่เรียกว่าถงมู่กวน (桐木关) ชาเจิ้งซานเสียวจ่งนั้นผลิตจากชาพันธุ์ใบเล็ก (小叶种/เสี่ยวเย่จ่ง) ที่เพาะปลูกในบริเวณพื้นที่อนุรักษ์ที่เป็นเขาสูงในช่วง 1000-1500 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลห่างไกลจากมลพิษและการรบกวนจากมนุษย์ พื้นที่ตลอดปีเต็มไปด้วยหมอกหนาน้ำค้างหนักแสงอาทิตย์สาดส่องความชุ่มชื้นสม่ำเสมอลมหนาวหิมะโปรยสลับวนเวียนหมุนเปลี่ยนไปตามฤดูกาล ต้นชาพันธุ์นี้กำเนิดขึ้นในสภาพแวดล้อมแบบนี้เอง
ห้างชาเหล่านั้นพอได้ฟังดังนั้นก็เกิดความกลัวตีขึ้นสมองร้องโอยออกมา บ้างเพราะกลัวจะไม่มีชาดื่มบ้างก็เอาชาให้ลูกค้าไปทดลองแล้วติดใจอยากซื้อไว้ หากหมู่บ้านไม่ทำชาแล้วจะเอาชามาจากที่ใด ทุกคนจึงพยายามโน้มน้าวผู้ใหญ่บ้านให้เพิ่มชาแบบนี้ขึ้นมาเป็นสินค้าอีกชนิดหนึ่งของหมู่บ้าน ลดปริมาณการทำชาเข็มเขียวลวี่เจินลงห้าส่วน จากนั้นแต่ละห้างก็พากันให้ราคาทับถมกันไปมาจนราคาสูงกว่าลวี่เจินเป็นสิบเท่า ผู้ใหญ่บ้านจึงรับปากว่าจะเพิ่มการผลิตชานี้ขึ้นมาแต่ก็ขอให้ทุกห้างแบ่งกันไปโดยยุติธรรม เรื่องราวของชาแดงเจิ้งซานเสียวจ่งนั้นก็มีความเป็นมาดังนี้เอง จากปีนั้นมาปริมาณการผลิตชาเข็มเขียวลวี่เจินก็น้อยลงเรื่อย ๆ แต่การผลิตชาแดงมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ ตลอดมา
ชื่อของชาชนิดนี้ที่เรียกว่า 正山小种 (เจิ้งซานเสียวจ่ง) นั้นแต่แรกชื่อของมันคือชื่อ 拉普山小种 (ลาผู่ซานเสียวจ่ง) ซึ่งแผลงไปเป็นภาษาอังกฤษว่า Lapsang Souchong (แล็ปซาง ซูซอง) (น่าจะแผลงไปเป็นภาษาอังกฤษจากสำเนียงถิ่นของฝูเจี้ยน-ผู้เขียน) เมื่อแรกนั้นใช้ชื่อนี้แต่ที่ต้องเรียกขานกันว่าเจิ้งซานเสียวจ่งนั้นก็เพราะว่าภายหลังที่ชาแดงชนิดนี้โด่งดังขึ้นมาก็มีอำเภออื่น ๆ เสาะหาพันธุ์ไปขยายและทำชาแบบเดียวกันนี้ออกมา ชาที่ผลิตออกมาก็ใช้คำว่าลาผู่ซานนี้เช่นกัน ชาวไร่ชาโรงงานชาที่อยู่ที่ถ่งมู่กวนจึงเรียกขานตัวเองว่าเจิ้งซาน (正山/ภูเขาแท้) เรียกชาที่ปลูกนอกเขตว่าไว่ซาน (外山/เขานอก) หรือหมายถึงไม่ใช่ของดั้งเดิมนั่นเอง ชาชนิดนี้มีข้อสังเกตประการหนึ่งคือควรมีการพัฒนากรรมวิธีการผลิตเพราะแต่แรกที่ทำชาเขียวนั้นเมื่ออบด้วยไอน้ำแล้วก็นำไปตากให้แห้ง แต่เมื่อเริ่มมีชื่อเสียงโด่งดังจึงรับเอาวิธีการรมควันตามสไตล์ของชาอู่อี๋ซาน เป็นชาสั่งทำก็ว่าได้จึงเพิ่มการรวมด้วยควันไม้สนและใบสนเข้าไปอีกขั้นหนึ่ง เป็นการ ไล่ความชื้นและเพิ่มกลิ่นพิเศษอีกประการหนึ่ง
วิธีการชงชา
1 เตรียมถ้วยสำหรับชงชา ตักใบชาประมาณ 1 ช้อนชาลงถ้วย (จริงๆ ถ้าชงทานบ่อยๆ จะทราบว่า ความเข้มแค่ไหนที่ถูกคอ ใส่ชายิ่งมากรสชาติยิ่งเข้มข้นค่ะ)
2.รินนํ้าร้อนเดือด(95อาศา)ลงถ้วยชา นํ้าแรกจะเป็นการลวกใบชาเพื่อกระตุ้นใบชาให้ตื่นตัว ใช้เวลาไม่เกิน 5วินาที เสร็จแล้วเทนํ้าแรกทิ้งเลย
3. รินนํ้าร้อนเดือด(95องศา)เติมให้เต็มถ้วย แช่ใบชาไว้ไม่เกิน 60 วินาที เสร็จแล้วรินเฉพาะนํ้าชามาดื่ม ดื่มชาร้อนๆ อุ่นๆ ได้ประโยชน์สูงสุดค่ะ
4. ใบชาที่กรองไว้ สามารถชงดื่มซํ้าได้ 2-3 รอบ หรือจนกว่ากลิ่นชาจะจางไป การชงชารอบที่ 2 - 3 ให้เพิ่มระยะเวลาแช่ชาขึ้นเรื่อยๆ แต่ไม่ควรแช่ชาเกิน 5 นาที นะคะ การแช่ใบชานานเกินไปจะทำให้สารแทนนินในใบชาออกมามากเกินไป ซึ่งทำให้ท้องผูกได้ค่ะ
***เคล็ดไม่ลับการชงชาให้อร่อย*** อยู่ที่ต้องใช้นํ้าร้อนเดือดๆ จะทำให้ชาออกรสชาติ และกลิ่นหอม ลองทำดูนะคะ
วิธีเก็บรักษาชา
•ใช้ภาชนะมีฝาปิดสนิท เพื่อป้องกันไม่ให้อากาศเข้า
•ไม่ควรให้ใบชาถูกอากาศโดยไม่จำเป็น และหลีกเลี่ยงจากแสงแดด
•หลีกเลี่ยงความชื้น เพราะความชื้นจะเป็นตัวทำลายคุณภาพของใบชา
•ไม่ควรนำภาชนะที่มีกลิ่นมาบรรจุใบชา หรือเก็บใบชาไว้ใกล้กับสิ่งของที่มีกลิ่น
•ไม่ควรใช้มือหยิบจับชาโดยตรง เพราะอาจทำให้ชาเสียรสชาติได้ ควรใช้ช้อนตักชา